หลังจากเมื่อวานเจอฝน ชุ่มฉ่ำที่ Glacier วันนี้เราจะออกเดินทางกันต่อ
โดยมีจุดหมายปลายทางที่เมืองน่ารักๆ เงียบสงบ ริมทะเลสาปที่มีชื่อว่า " Wanaka "
เป้าหมายแรก ไปที่ Hasst ระยะทางประมาณ 121 km.
วันนี้ตื่นกันตั้งแต่เช้าเหมือนเคย จริงๆ เช้านี้แผนเดิมเราจะไป Lake Matheson กันอีกรอบ
เพื่อไปเก็บภาพแสงสวยๆ ยามเช้า แต่ก็ไม่ได้ไป เพราะตอนเช้าฝนก็ตกอีก
ทำให้เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 07.45 มุ่งสู่ Haast ท่ามกลางสายฝน
เราวิ่งตามเส้นทาง Highway หมายเลข 6 มาเรื่อยๆ
ประมาณ 8 โมงเช้าฝนก็หยุดตก เริ่มมีแสงให้เห็นบ้างแล้ว
วิวเขียวๆ สร้างความสดชื่นในการเดินทางได้เป็นอย่างดี
ระหว่างทางนานๆ จะเห็นบ้านของผู้คนสักทีนึง
บ้านในฟาร์มเล็กๆ น่ารักดีนะครับ
ผ่านทั้งแนวป่าดิบชื้นเป็นระยะๆ สลับกันกับทุ่งราบระหว่างภูเขา
ขับมาได้เกือบชั่วโมง ไม่นานก็เห็นชายหาด ด้านหน้า นั่นก็คือ Bruce Bay
ช่วงนี้ถนนจะตัดเลียบ Tasman Sea
ตอนที่เรามาถึง แดดเริ่มออกพอดี คลื่นแรงน่าดู
ชายหาดฝั่งนี้เจอแต่คลื่นแรงๆ ทั้งนั้นเลยครับ
เสียดายเมฆเยอะไปนิดนะ
มีกิ่งไม้แห้งปักระหว่างกองหินเป็นระยะๆ ไม่รู้ว่ามีความหมายอะไร
บริเวณชายหาด ก็จะพบ ก้อนหินเหล่านี้ เรียงกันเป็นชั้นๆ ได้แต่ถ่ายรูปมา ไม่ได้เรียงนะครับ
แดดเริ่มจ้า เดินทางกันต่อดีกว่า
บางช่วงจะผ่านแนวต้นไม้สูงใหญ่ ในเขตป่าดิบชื้น
ฝูงวัวหน้าขาว กำลังเล็มหญ้าริมน้ำกันอย่างสบายใจ
เห็นกันจนชินตา กับป้ายนี้
และอีกอย่างที่เห็นบ่อยมากๆ คือทุกๆสะพานข้าม ก็จะมีชื่อ Creek
หรือภาษาไทยเรียกว่า " ห้วย " ต่างๆ กันไป ขยันตั้งชื่อจริงๆ
และตอน 09.15 เราก็มาถึง Knights Point Lookout
อยู่ตรงทางโค้งขวามือครับ เกือบเลี้ยวไม่ทันแล้ว
มุมนี้ถ่ายใต้หลังคา ทำไมมันไม่ค่อยสวยเลย
สงสัยจะติดพุ่มไม้ ต้องหลบเยอะหน่อย
มีห้องน้ำด้วย เป็นโถแบบหลุม นะครับ
มุมด้านหลังห้องน้ำนี่ก็สวยใช้ได้ ถ่ายมาเยอะเลย
ใช้เวลา อยู่ Knights Point ประมาณ 30 นาทีก็เดินทางต่อ
ขับมาเจอวิวนี้สวยกว่าตะกี้อีก
มันติดพุ่มต้นไม้ด้านหน้า
นึกว่ารถมี Sunroof จะยืน โผล่หัวไปถ่ายซักหน่อย
สำหรับผู้ที่มีเวลาเหลือ ระหว่างทางก็จะมี track สั้นๆ ตลอดเส้นทาง
อยากเดินชมธรรมชาติก็ได้นะครับ
ทิวทัศน์ช่วงนี้ ดูแตกต่างจากที่เคยเห็นมา
ต้นไม้รูปทรงแปลกตาขึ้นเบียดกันแน่น เป็นผืนเลยทีเดียว
one lane bridge นี้ จะมี ทางเว้าให้หลบรถกันระหว่างทาง สองจุดครับ
ไม่ค่อยเห็น คงเพราะสะพานยาวมากกว่าที่อื่น
จุดหลบรถ ที่บอกครับ
อีก 200 เมตรก็จะมีอีกมีจุดหลบอีกจุดนึง
10.00 เข้าสู่ เมือง Haast แล้ว ที่นี่เป็นเขตมรดกโลกด้วยhttp://www.haastnz.com/
จาก Haast อีกไม่ไกลครับเท่าไรครับ ก็จะถึง Wanaka
ขับกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีรถ เลย
เริ่มเข้าสู่ เขต Mount Aspiring National Park
ระหว่างทางก็บันทึกภาพไปเรื่อยๆ คงเพราะเริ่มเข้าแนวป่าแล้ว
เจอน้ำตกสายเล็กๆ ไหลมาจากเทือกเขา ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
บ้านเราไม่ค่อยเจอนะครับ
บนยอดเขามีหิมะปกคลุมอยู่บ้าง
ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวอย่างจริงๆจังๆ
บริเวณ Mt.Aspiring นี้ มีกิจกรรมยอดฮิตคือ ปั่นจักรยาน ครับ
ขนาดผู้พิการ ก็ยังมาปั่นวีลแชร์ กันบนเส้นนี้ด้วย เห็นแล้วเหนื่อยแทน เลย
นั่งรถต้องคอยสังเกตตามทางไปเรื่อยนะครับ
เห็นมีรถจอด ก็ขยันมองหน่อยก็จะเจอที่เที่ยวตามทาง อิอิ
ถึงแล้วครับ Thunder Creek Falls
จากป้าย เดินเข้าไปใกล้ๆ แค่ 5นาที เองครับ
ทางเดินเข้าป่าก็เหมือนๆ ทุกที่นะครับ เข้าชมฟรี
แต่จะมีตู้รับบริจาค ก็แล้วแต่เราจะบริจาคไหม
ป่าที่นี่อุดมสมบูรณ์ มาก ต้นไม้มีแต่ต้นใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลยครับ
ถ้าเป็นบ้านเราคงไม่เหลือ
แปปเดียวก็ถึงแล้ว น้ำเยอะทีเดียว
นึกว่าจะแล้งๆซะอีก
บริเวณด้านล่างนี่ลื่นมากๆ ต้องระวังกันนิดนึง
แต่ตรงทางเดินไม้ เค้าจะมีลวดตาข่ายปูไว้ ก็ช่วยได้ระดับนึง
ชอบจัง ลำธารตื้นๆ ไหลเย็น
อยากมีบ้านริมลำธารแบบนี้มั่ง
ขับต่อไปอีกนิดเดียวก็ถึง Gates of Haast
Gates of Haast เป็นสะพานโครงเหล็ก ข้ามแม่น้ำ
ข้ามสะพานไปแล้ว เห็นฝรั่งยืนถ่ายรูป อยู่
เราก็จอดมั่ง ลงไปดูเห็นด้านล่าง น้ำไหลแรงมากๆ
กลับมาสู่ที่ราบอีกครั้ง ฟ้าเริ่มเปิด
ไม่แน่ใจว่าตรงนี้คือ Haast Pass รึเปล่า
http://en.wikipedia.org/wiki/Haast_Pass
เราแวะพักเข้าห้องน้ำ ทางด้านซ้ายมือ ที่ Cameron Flat
(รูปนี้ถ่ายอีกมุมนึงนะครับ)
เราขับมาจากถนนเส้นโน้น
โฉมหน้าห้องน้ำ หรือส้วมหลุม
ด้านบนมีที่จอดรถ ไว้แวะพักกลางทาง
ถือโอกาสแวะกินมื้อเที่ยงกันที่นี่เลย
อาหารญี่ปุ่นสุดหรูอีกเช่นเคย
ออกจาก Cameron Flat ขับไปได้นิดเดียว
ก็ถึง Blue Pool แล้วครับ
ใช้เวลาเดินไปกลับ ประมาณ 30 นาที
ตามรายทาง มีที่แวะเที่ยวตลอดเลยนะครับ
ถ้ามีเวลาก็ไม่น่าพลาด
SandFlies ไม่แน่ใจว่าเจอรึเปล่า เคยเจอที่นึง น่าจะริมทะเล
แต่ตัวมันเล็กๆ คล้ายๆแมลงหวี่ ครับ ไม่รู้ว่าใช่รึเปล่า แต่ยังไม่โดนกัดนะ
เค้าบอกว่า มันชอบคนใส่เสื้อสีแดง สีดำ สีน้ำเงิน
ทางเดินเข้า ไป Blue Pool เป็นป่า
เมล็ดอะไรไม่รู้สีแดงๆ เห็นตามทางเดินเข้าป่า แทบทุกที่เลย
ระหว่างทางก็ทำตัวเป็นมาริโอ้
เก็บเห็ดกลับไปทำมื้อเย็นคืนนี้ด้วย555 ล้อเล่นครับ
โคนไม้ใหญ่เหมือนเพิ่งจะโดนลมพัดหรือฝนตก โค่นลงมา
เดินมาจนเจอสะพานแขวนอันแรก ทางเดินเล็กๆ พอสวนกันได้
แต่อย่าเดินแรงนะครับ มันสั่นๆเด้งดึ่งๆ
เสียวเหมือนกัน
ข้ามสะพานมา ถ้าไป Blue Pool เลี้ยวซ้ายเดินไป แค่ 2 นาทีก็ถึงแล้วครับ
แต่ถ้าไป Valley ก็ใช้เวลานานเลยทีเดียว
ด้านล่างเค้าทำอะไรกันตรงนั้น รอก่อน เดี๋ยวเราลงไปดู
เดินไป Blue Pool ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
จำกัดคนด้วยนะครับ แต่สะพานดูแข็งแรงกว่าอันแรก ไม่โยกเยก
มองจากบนสะพาน จะเห็นน้ำสีเขียวไหลแรง
แต่สีน้ำไม่เห็นสีฟ้าเหมือนชื่อเลย
ลงไปดูข้างล่างดีกว่า
สะพานที่เราเดินลงมาเมื่อกี้ ครับ คนเริ่มเยอะ
ส่วนใหญ่เค้าเดินข้ามสะพานไปยัง Valley ด้านในกันด้วย
ฝรั่งที่มาเที่ยวส่วนใหญ่อึดๆ กันทั้งนั้น ครับ สงสัยจะเที่ยวบ่อย
เดินทีไม่ค่อยหยุดพักเลย ความเร็วสม่ำเสมอ เวลาเดินไกลๆ
เจอตั้งหินกันอีกแล้ว รู้สึกว่า จะเริ่มมาจากชาวญี่ปุ่น นะครับ
ที่ไหนมีหิน จะต้องมีคนมาตั้งทุกทีเลย อ่านรีวิวเห็นบางคนบอกว่า
มันจะกระทบต่อ สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่อยู่ตามซอกหินด้วยนะครับ
13.00 ออกจาก Blue Pool เดินทางกันต่อ
อีก ประมาณ 70 กิโลก็จะถึง Wanaka แล้ว
งวัวดำ นอนพักรับลมกันสบายกลางทุ่งหญ้า
น่าอิจฉามันเนอะ ได้อยู่ท่ามกลาง วิวสวยๆ
ยังคงวิ่งบนเส้นทาง Highway หมายเลข 6
ถ้ามีหญ้าเขียวๆ ขึ้นเต็มภูเขาทั้งลูก คงสวยมากๆ
ส่วนใหญ่เราเจอแต่สีน้ำตาลทั้งนั้น
แวะจอด ข้างทาง ต้องหาไหล่ทางที่เหมาะๆนะครับ
จอดเพราะเจอฝูงแกะ ฝูงใหญ่ซะด้วย 555เสร็จเรา
ค่อยๆ ย่องไปช้าๆ ... หนีกันหมดอีกแล้ว
แต่มันไม่เหมือนแกะเลยนะครับ อ้วนเหมือนหมูมากกว่า
เซงเลย
ไปกันหมด
แต่ขับมาอีกหน่อยก็เจออีกนะครับ
เป็นแกะหน้าดำ มีตัวนึงมันสนใจเราเป็นพิเศษ
แถวนี้ฟาร์มเยอะเชียว มาเจออีกที่ คราวนี้เจอกวาง
เข้าสู่เมือง Makarora http://www.makarora.co.nz/
ยังกับอุโมงค์ต้นไม้ แถวปากช่อง
เริ่มเห็น Lake Wanaka
ถ่ายยากเหมือนกันนะครับ เพราะนั่งข้างคนขับด้านซ้าย แต่เลคอยู่ด้านขวาhttp://www.wanaka.nz.com
มาลองดูวิว Lake Wanaka แบบ Panorama กันบ้างนะครับhttp://www.lakewanaka.co.nz/
ถ่ายยาก มุมไม่ได้ เลยต้องหาที่แวะด้านขวา เพื่อลงไปถ่ายซักหน่อย
เจอแสงส่องผ่านก้อนเมฆลงมาเป็นลำเลย
หันมาอีกด้าน ฟ้าแจ่ม ผิดกับเมื่อกี้
แบบ Panorama บ้าง
น้ำทะเลสาปสีจะเข้มมาก คงเป็นเพราะเมฆเยอะ ทำให้แสงไม่ส่องกระทบผืนน้ำ เท่าไรนัก
ขับมาจนถึงส่วนที่ Lake Wanaka และ Lake Hawea ใกล้กันที่สุด
ส่วนนี้เป็น Lake Hawea Lookout
เป็นจุดแรกที่เริ่มเห็น Lake Hawea
ชอบมุมนี้มากเลยครับ รู้สึกว่ามันสวยกว่า Lake Wanaka อีกนะ
ดูใกล้ๆ ด้านซ้ายจะมีถนนเล็กด้วย ไม่รู้ว่า ต้องไปเส้นไหนนะครับ
น่าลงไปเก็บภาพมุมด้านล่างดู
ตอนนี้ วิวทะเลสาป ก็เปลี่ยนมาอยู่ทางซ้ายมือแล้ว
ค่อยถ่ายรูปง่ายหน่อย
ถนนเลียบทะเลสาป อีกด้านเป็นเนินเขา สวยไปอีกแบบ
ไม่รู้เพราะแสงหรืออะไรก็แล้วแต่ สีน้ำ ของ Lake Hawea ผมว่าสวยกว่า Wanaka นะ
ไม่ชอบรถตามหลังเลยครับ จะจอดกะทันหัน ก็ยาก
กลัวเค้าเบรคไม่ทัน
เจอจุดแวะ อีกที่นึง บริเวณนี้ มองไม่ค่อยเห็น วิวทะเลสาปเท่าไร
ต้นไม้บังเยอะเลย
บางช่วงก็ไม่ได้เลียบทะเลสาป ตัดเข้ามาบ้าง สลับกันไป
เริ่มเข้าสู่ตัวเมืองแล้วครับ มุมนี้จะเป็นมุมสุดท้ายที่จะเห็น เลค ก่อนเข้าตัวเมือง
เราจะเข้าเมือง วานากา เลี้ยวขวาไปเลย
ก่อนเข้าเมืองจะผ่าน ที่นี่ครับ อยู่ซ้ายมือ
Stuart Landsborough’s Puzzling World http://www.puzzlingworld.co.nz/
มาเพื่อมาถ่ายรูปเฉยๆ อิอิ แรกๆ ก็ไม่มีคน แต่ซักพักทัวร์จีนมาอีกแล้ว
จริงๆถ่ายหอนาฬิกามาด้วย แต่ติดคน อิอิ
ฝั่งตรงข้าม ที่นี่ ก็มีต้นไม้เปลี่ยนสี หลายต้นเลยครับ สวยมากๆ
แล้วก็เข้าไปด้านใน เพื่อไปห้องน้ำ มุมนี้อยู่ด้านหน้าห้องน้ำเลยครับ
ส่วนอื่นๆ ไม่ได้เข้าไปนะครับ เพราะเฉยๆ ลองเข้าไปดูในเวบนะครับ
หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าเข้าที่พักคืนนี้กัน
สภาพเมือง Wanaka น่าอยู่มากๆ เลยครับ
ขับตาม GPS บอก และแล้วก็มาถึง YHA Wanaka Purple Cow ตอน 16.00
เหมือนว่า YHA จะเพิ่งเข้ามาทำที่นี่นะครับ ก่อนนี้เป็นของ BBH หรือไงนี่แหละ
หลังจากเช็คอินเสร็จ เราต้องขับรถไปด้านหลังที่พักครับ จะมีที่จอดรถด้านหลังต่างหาก
บริเวณด้านหน้าก็มีเหมือนกัน แต่จอดได้ไม่กี่คันครับ
RECEPTION ที่นี่เปิดตั้งแต่ 8am - 9pm เช็คเวลาดีดีนะครับ
ขับอ้อมมาด้านหลัง ก็จะเจอห้องพักเราแล้วครับ ริมสุดที่เห็นเลย
จองมาเป็น 6 Bed Multishare Ensuite (Kitchen, TV)
ราคาคนละ 25 nz$ ถ้าไม่ได้เป็นสมาชิก YHA ก็เพิ่มอีก 3 nz$ รวมเป็น 28 nz$ ต่อคนครับ
ใจนึงก็กลัวว่าห้องจะดีมั้ยนะ จะเหมือนที่ chc เปล่า
แต่เปิดห้องดู ก็โอ้ว ดีทีเดียว เป็นเตียง 2 ชั้น 3 เตียง สีสันสดใสได้อีก
ด้านหน้าทางเข้า เป็นครัวเล็กๆ อุปกรณ์พร้อม ทำอาหารได้ในห้องอีก เยี่ยมมาก
ห้องน้ำเล็กๆ ไม่ใหญ่ครับ
แต่อ่างล้างหน้าเล็กอีกแล้ว
ส่วนของ shower โอเค น้ำแรง ผ่าน
สำรวจห้องพัก เรียบร้อย ก็เดินออกไปชมวิว ช๊อปปิ้งข้างนอกกันครับ
ตรงนี้เป็นเหมือน Park มีผุ้คนมาเดินเล่น วิ่ง กัน
แดดดี เหมาะกับการถ่ายรุปมากๆ
ถ่ายรูปริมเลค กันเสร็จ ก็เดินไป New World ไปซื้อของมาทำกินเย็นนี้กันครับ
เจอเจ้าตัวนี้ นั่งรอเจ้านายอยู่ในรถ
อยู่ใกล้ที่พักด้วย สะดวกมากๆครับ
ซื้อเสร็จก็เดินกลับ ที่พัก ชอบบรรยากาศเมืองวานากา มากๆ เลย ครับ
เหมือนเมืองตากอากาศ ยังไงอย่างงั้น ถ้ามาอยู่ อยากอยู่เมืองนี้ อิอิ
17.30 กลับถึงที่พัก รอเค้าทำกับข้าว ส่วนเราก็อาบน้ำรอ เวลาเหลือเลยเดินออกมาถ่ายรูปริมเลค อีกครั้ง
พอเริ่มเย็นๆ ลมหนาวพัดมามากๆ มือแข็งเลยทีเดียว
ตอนเย็นๆ วิวก็สวยดี แต่ว่าเสียดายพลาดช่วงเช้าๆ แดดส่อง คงจะสวยมากๆ
ก็เราออกเช้าทุกวัน ฟ้ายังไม่สว่างเลยอดทุกรอบ
เมนูวันนี้ น่ากินมากๆ ไก่น้ำแดง ไข่เจียว ผัดบร๊อคโคลี่ และ ลาบหมู
เมนูนี้ สำหรับมื้อเที่ยงวันพรุ่งนี้ เป็นมะกะโรนี กับน่องไก่ทอด
อิ่มแล้ว ก็จัดการไอติมต่อ ที่ซื้อจาก New World
เป็นรส Hokey Pokey เห็นในรีวิวหลายๆคนบอกอร่อย แต่คนอื่นซื้อเป็นโคน
เห็นในห้างไม่แพง เลยซื้อแบบนี้มา รสชาติก็อร่อยดีครับ หวานนิดๆ ประมาณ 6เหรียญครับ
คืนนี้ก่อนนอน นั่งเขียนโปสการ์ด เพราะพรุ่งนี้กะว่าจะไปส่งโปสการ์ด ที่ Arrowtown
ขอลาด้วยวิวมุมกว้าง แบบ Panorama บริเวณ Lake Wanaka นะครับ
เจอกันใหม่ทริปหน้า จะพาไปเที่ยวต่อ ที่ Arrowtown - Queenstown - Te Anau
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น