สวัสดีครับ
ตอนนี้ก็เข้าสู่วันที่ 5 ของการเดินทางแล้ว เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เดินทางมาได้ครึ่งทางละ
วันนี้แผนการเดินทาง มุ่งหน้าจาก Wanaka ผ่าน Arrowtown, Queenstown และปลายทางที่ Te Anau
วันนี้ออกเดินทางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเหมือนทุกที ยังมองเห็นดาวส่องแสง เหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด
อากาศตอนเช้าก็เย็นสบาย ประมาณ 15 องศาได้ครับ
เราวิ่งมาตามเส้น Crown Range Road ,Cadrona Valley แม้จะมืดๆ ก็ยังพอรู้ว่า คงสวยน่าดู
Crown Range Road เป็นถนนเส้นที่สูงที่สุด
ช่วงนี้ที่ถ่ายมาได้ ขับมาได้ซักระยะแล้ว ครับ
แต่ในช่วงแรกๆที่เพิ่งออกจากที่พักที่ Wanaka เจอกระต่ายกระโดดข้ามถนนเกือบจะชนซะแล้ว
เวลาขับต้องคอยระวังกันหน่อย สงสารมัน
เส้นทางก็คดเคี้ยวตามช่องเขาไปเรื่อยๆ
เช้าๆ แบบนี้ไม่มีรถสวนทางเลย
หลังจากเสียดายช่วงเช้าๆ ที่มองไม่ค่อยเห็น มาเจอวิวแบบนี้ ค่อยยังชั่ว
เมื่อสีชมพูและสีฟ้ามาเจอกัน
เจอฝูงแกะอีกแล้วววววว มองไกลๆ นี่ฝุงใหญ่เหมือนกันแฮะ
พอเริ่มลงสู่ด้านล่าง ก็จะเป็นที่ราบ คล้ายๆจะเป็นเมืองเล็กๆ
สวยไหมครับ ด้านล่างไม่ไกลจะมองเห็นเมือง Arrowtown
จากนั้นเดินทางต่อ ช่วงลงเขาจะหักศอกแบบนี้
เริ่มเข้าสู่ตัวเมืองกันแล้ว
อีกแค่ 7โล เท่านั้นก็จะถึงเมือง Arrowtown ตื่นเต้นๆ
Arrowtown เดิมเป็นเมืองขุดทองเก่าเหมือนกันนะครับhttp://www.arrowtown.com/
เริ่มเข้าสู่ตัวเมืองแล้ว ลดความเร็วเหลือ 50 กิโล/ชม นะครับ
ช่วงที่เราไปกำลังจะมีงาน Arrowtown Autumn Festival ด้วย
ซึ่งส่วนใหญ่งานจะจัดช่วงเดือนเมษายนของทุกๆปี นะครับhttp://www.arrowtownautumnfestival.org.nz/
เช้าๆแบบนี้ แสงยังไม่มี บรรยากาศเงียบสนิท ไม่มีผู้คน
นี่เป็นถนนเส้น ที่ทุกคนน่าจะผ่านก่อนที่จะตรงเข้าไปยังเส้นที่มีร้านค้า
จากถนนเส้นนี้ หันหน้าเข้า เส้นร้านค้า เราเลี้ยงขวาเข้าไปด้านใน
จะมีที่จอดรถ รวมถึงพวกรถบัส ก็จะจอดกันบริเวณนี้
ตรงนี้มีห้องน้ำด้วยนะครับ
เจอใบไม้เปลี่ยนสี ตื่นเต้น
ยืนถ่ายกันพอสมควร ก็เดินไปข้างๆ ลานจอดรถบัสกันบ้าง
นี่เป็นด้านหลัง Museum ค่าเข้าชม คนละ 9 เหรียญhttp://www.museumqueenstown.com
เดินออกมาด้านหน้า
ด้านซ้ายที่มีต้นไม้ใหญ่ๆ สองข้างทาง เป็นถนนที่เราแวะถ่ายรูปเมื่อซักครู่
เดินออกมาเส้นร้านค้า ด้านหน้าเป็นแบบนี้ บรรยากาศต่างแดน นี่ดูยังไงก็สวยเนอะครับ
ไม่ว่าอะไรก็ดูดีไปหมด
ตรงมุมถนนก็มี แผนที่ว่ามีจุดไหนน่าสนใจบ้าง
จริงๆเตรียมไว้ว่าจะไปดูถนนเส้นอื่นด้วย แต่ก็ไม่ได้ไป
ฝั่งตรงข้ามจะเป็น ไปรษณีย์ เปิด 09.00 นะครับ เรามาส่งโปสการ์ด ล๊อต 2 กันที่นี่
เป็นเมืองเล็กๆ ที่มี มีภูเขาล้อมรอบ เดินชมร้านค้าไปเรื่อยๆ แต่ละร้านก็คงความเก่าไว้
เหมือนกับเราได้ย้อนกลับไปในอดีต
ระหว่างร้านค้า ก็มีห้องน้ำสาธารณะ เหมือนกัน
ต้นนี้ถ่ายหน้าห้องน้ำ สีแดงสดมากกก
ร้านขนมสุดฮิต Remarkable Sweet Shop
ได้แต่ถ่ายรูปหน้าร้านมาให้ดู อิอิ สาขาแรกเริ่มอยู่ที่นี่ ส่วนอีกสาขา อยู่ที่ Queenstown ครับhttp://www.remarkablesweetshop.co.nz/
เดินไปเรื่อยๆ ระยะทางสั้นๆ ครับ สองข้างทางก็มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ
พอเแดดเริ่มออก ทัวร์ก็เริ่มมา มีแต่คนไทยทั้งน้าน
อยู่รอเวลาถึง 9.00 รอไปรษณีย์เปิด คุณป้ามาตรงเวลาพอดี
มีคนรอใช้บริการเหมือนกัน จัดการส่งโปสการ์ด แล้วรีบออกเดินทางกันต่อ
มุ่งสู่ Queenstown ฟ้าวันนี้สดใสเหมือนเคย
นานๆ ทีจะเห็นแดดแรงๆแบบนี้
ขับมาเรื่อยๆ ผ่าน เลคๆ นึง อ้าวเพิ่งเห็นป้าย นั่นมัน Lake Hayes ที่พี่แอมนางฟ้าบอกนี่หว่า
เลี้ยวกลับๆๆๆ จากถนนมาจะเป็นเนิน
บริเวณด้านในเป็นเนินสูง มีที่จอดรถนะครับ
ด้านล่างมองลงไปมีทางลงไป สู่ เลค
มุม panorama บ้าง แม้จะเป็นเลคเล็กๆ ไม่ได้เดินลงไปด้านล่าง แต่ก็ประทับใจ ในความสวยงาม
ออกจาก Lake Hayes มุ่งสู่ ควีนส์ทาวน์ แต่ด้านข้างยังเห็นเลคอยู่
ตรงไปเรื่อยตามเส้นทางหมายเลข 6 และ 6a เมื่อเข้าสู่ตัวเมือง
เข้าสู่ เมือง Frankton
แวะเติมน้ำมันกันก่อน คันข้าง เป็น BMW มี ไซบีเรียน 2 ตัว น่ารักจริงๆ
จะเห็นได้ว่าบ้านพักอาศัย ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาเป็นส่วนใหญ่
ด้านซ้ายเริ่มเห็น Lake Wakatipuhttp://www.queenstown-nz.co.nz/
ที่พักต่างๆ ตั้งอยู่เรียงราย ทั้งซ้ายและขวา
หลังจากเข้าสู่ Queenstown แล้วเราตรงดิ่งไป Shotover Jet กันก่อนเลย
โดนขับขึ้นไปถนนเส้นด้านบน
สัญลักษณ์ ของที่นี่ เป็นสะพานข้าม shotover river
ที่นี่เริ่มเปิดให้เล่น ตั้งแต่ 9.00 น.
มาเพื่อมาถ่ายรูป ไม่ได้มาเล่น
ด้านในออฟฟิศ ก็มีวีดีโอให้ชมด้วย
เหนื่อยนักพักก่อน
แค่ดูเฉยๆ ก็เพลินแล้วล่ะครับ
มุมนั่งเล่นสบายๆ ชอบแสงเงา สวยย
หลงมาด้านล่างมาดูใกล้ๆ ใครไม่ได้เล่นก็ลงมาดูได้นะ
สำหรับผู้ที่จองก็มีบริการรับส่งจาก center ในตัวเมืองด้วย
จาก Shotover Jet ลงมาในตัวเมืองกันบ้าง
ในตัวเมือง ไม่ค่อยมีไฟเขียวไฟแดง
ส่วนใหญ่ตามแยก เค้าจะทำเป็นวงเวียน แล้วก็มีป้าย Give Way กันตลอด
วนหาที่จอดรถอยู่นาน ด้านหน้าเต็มหมด วนลงไปด้านล่างเห็นบอกมีแต่ที่จอดของ ร.ร. เลยไม่กล้าจอด
กลับขึ้นมาอีกรอบ ได้ที่จอดพอดี และแล้วเราก็มาถึง Skyline Gondola @ Queenstownhttp://www.skyline.co.nz/queenstown/
อัตราค่าบริการ ตามป้ายเลย
ตั๋วหน้าตาเป็นแบบนี้ เก็บไว้ดีดีนะครับ เพราะต้องใช้เสียบเวลาไปเล่น Luge
มีแผนที่มาให้ด้วย
ขึ้นแล้วววว ตื่นเต้นนิดนึง แต่ไม่น่ากลัวเหมือนที่มาเก๊า อิอิ
ที่นี่ดูนิ่มๆ กว่า ไม่แกว่งเท่าไร ด้านล่าง ตามเชิงเขาก็จะมีเจ้าแกะ ยืนกินหญ้ากันอยู่ด้วย
วิวสวยๆระหว่างนั่งกระเช้า ขึ้นสู่ Bob's Peak เห็นตัวเมือง Queenstown
มี เทือกเขา Remarkable เป็นฉากหลัง
ออกจากกระเช้าก็เดินเข้าตัวอาคาร จะมีทางออกไปเล่น Luge
ซึ่งต้องเดินลงไปด้านลง ก่อนที่จะนั่ง Chairlift แบบนี้ขึ้นไปด้านบนอีกที
นั่งคนเดียว เสียวเหมือนกัน
ตอนที่ขึ้นไปนั่ง Chairliftมันไม่หยุด ต้องรอจังหวะมารีบเอาตัวเข้าไปนั่ง แล้ว เอาเหล็กด้านบน ลงมาล๊อกตัวเราไว้ครับ
เดินลงถึงจุดด้านล่างก่อนไปนั่ง Chairlift ต้องมาเลือกหมวกกันน๊อค กันก่อน
ใครหัวใหญ่ หัวเล็ก ก็ลองใส่ดูนะครับ
จากนั้นถึงไปนั่ง Chairlift ตามที่บอก วิวเป็นแบบนี้
หรือใครจะเดินขึ้นมาก็ได้นะครับ แต่คงเหนื่อย หน่อย
ใครที่ไม่ได้เล่นลูจ ก็ขึ้นมาได้นะครับ เพราะเค้าไม่ได้ตรวจบัตร ตอนขึ้นกระเช้า
เห็นเค้าเล่นกันบอกสนุกมาก ต้องเล่นหลายๆรอบ
เดี๋ยวลองดูก่อน ซื้อมารอบเดียว เพราะมีเวลาไม่มาก
ขึ้นมาปั๊ป ก็สอดบัตร ผ่านช่อง ถึงจะเข้ามาได้
ไอ่เราก็เสียบแล้ว มันไม่ผ่านต้องเรียกเจ้าหน้าที่มาจัดการให้ แหะๆ
ตอนนี้เค้ากำลังสอนการบังคับรถ ว่าเบรคยังไง เร่งยังไง
เห็นเค้ายกมือตอนถ่าย นึกว่าโดนด่า ซะแล้ว กำลังสอนอยู่ไม่ฟังมัวแต่ถ่าย
จริงๆ เค้าโบกมือให้ตอนถ่ายน่ะครับ
เวลาขับไป ต้องคอยเบรคอยู่ตลอดเวลา มันเร็วๆ ไงไม่รู้ แถมเสียงเบรคก็ดังมาก เอี๊ยดดดดด!!!!
สงสัยรถจะมีปัญหา หรือขับไม่เป็นเอง 555 สรุป รอบเดียวพอ.. มันยังไม่ชิน
ออกมาถ่ายภาพมุมสุดฮิตกันดีกว่า เห็นตัวเมืองกันเต็มๆ
เสียดายไมได้ขึ้นไปด้านบนตรงยอดหลังคานั่น ไม่รู้ขึ้นไปด้านไหน
ลงมาด้านในอาคาร มีรูปขายที่ถ่ายจากกล้องในสนามเล่นลูจด้วย
ใครอยากได้ก็ไปซื้อตรง จุดขึ้น Chairlift
เล่นเสร็จก็ลงกระเช้า มา ที่เดิม
เจอธงชาติไทยด้วย
แสดงว่าคนไทยมาที่นี่เยอะไม่แพ้ชาติไหนในโลก 
กลับมาที่ที่จอดรถด้านหน้า จะมี Kiwi Birdlife Park ด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปชม http://www.kiwibird.co.nz
แวะกินมื้อเที่ยงกันในรถนี่ล่ะ
อิ่มแล้วเดินทางต่อ เห็นมั้ย อย่างที่บอก
ป้าย Give Way มีทุกด้าน .. แต่ละคนหยุดกันหมด
ได้แต่ถ่ายบนรถ ไม่ได้ลงไปสัมผัสบรรยากาศแบบใกล้ๆ เลย
แต่ดูแล้วบรรยากาศริมเลค ดีมากๆ ครับ
ตอนนี้เราก็มุ่งหน้า ไป Te Anau
ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตรครับ
ท้องฟ้า ใสๆ มีเมฆ แบบนี้แหละ ชอบ
Lake Wakatipu แบบ panorama
วิวนี้อยู่ช่วงไป Te Anau
Lake Wakatipu มีขนาดใหญ่มาก ขับเลียบข้างเลคไปไกลเหมือนกันครับ
พ้นจากวิวทะเลสาป ก็เข้าสู่แนวเขา เหมือนเดิม
เข้าสู่ เมือง Kingston
ภูเขาสีทองกับทุ่งราบสีเขียว ดูกลมกลืนกันดีแฮะ
ฝูงแกะตัวอ้วน สีน้ำตาลทั้งนั้นน ไม่ค่อยเห็นสีขาว
กองฟาง เค้าอัดเป็นแท่งๆ แบบนี้ครับ
ไกลสุดลูกหูลูกตา ตรงโน้นน ฝนเริ่มตั้งเค้าแล้ว
กองฟางหลังจากเก็บเกี่ยว เค้าจะม้วนเป็นก้อนกลมๆ แบบนี้ สวยดีนะครับ
ด้านหลังมีกังหันลมด้วย หลายอันเลย
ตามทางจะมีป้ายเตือนความเร็วเป็นระยะ ๆ
ถ้าเจอป้ายนี้แล้ว ให้ระวังไว้ นะครับ ซัก ช่วง 20กิโลหลังจากนี้ จะมีตำรวจดักซุ่มอยู่ เพราะเห็นทั้งขาไปขากลับ
หลังจากลุ้นมานาน เรื่องตำรวจ ก็เจอจนได้
แต่เป็นคันอื่นนะครับที๋โดน คันที๋โดนนี่แซงเราไป ด้วยความเร็วมากกว่า 100 แน่ๆ
แถมแซงผ่านรถตำรวจที่จอดอยู่ข้างทางอีก เลยโดนขับไล่ตาม
หลังจากฝนหยุดตก รุ้งตัวน้อย ก็โผล่ออกมา
หลังจากขับมา 2-3 ชม.
เข้าที่พักเช็คอินกันก่อน ที่ Te Anau TOP 10 Holiday Parkhttp://www.teanautop10.co.nz/
จากนั้นก็ขับตรงเข้าไปด้านในเลยครับ ห้องอยู่ด้านในสุด
ด้านหน้าก็เป็นสวน มีไม้ดอก เยอะแยะเต็มไปหมดเลย
เราจองห้อง Family Cabin 6 คน ราคา 160 nz$
ห้องอยู่ริมสุดเลย
เปิดประตูเข้าไป ก็จะเป็น เตียง Queen size มีโต๊ะทานข้าว อยู่ตรงกลางห้อง
ด้านซ้ายมือ ติดประตูจะมีเคาน์เตอร์ ครัวเล็กๆ แต่ทำอาหารในนี้ไม่ได้นะครับ
ด้านใน ก็จะมี เตียง Queen size อีก 1 เตียง และ bunk beds
ซึ่งเราต้องเสียค่าเช่าผ้าปู และปลอกหมอนอีกต่างหาก เตียงละ 7 เหรียญ
ทั้งหมด 4 เตียง เป็น 28nz$
ข้างๆห้องมีห้องน้ำ ด้วยครับ สะดวกสบายดี
ส่วนครัว และห้องน้ำ อยู่ตรงส่วนกลาง ของที่พัก
ตอนเช็คอินเค้าจะถามว่าจะทำอาหารรึเปล่า เพราะต้องเบิกพวกหม้อ กะทะ ตั้งแต่ตอนเช็คอิน
ห้องน้ำหญิงก็อยู่ด้านขวามือของรูปนะครับ ห้องน้ำชายจะอยู่อีกฝั่ง ติดกับสนามเด็กเล่น
ในห้องน้ำก็สะอาดมากครับ ยังไม่เจอที่ไหนห้องน้ำสกปรกเลย
ส่วนของห้องอาบน้ำเป็น Shower มีที่วางของด้วย
ห้องนั่งเล่นอยู่ข้างๆ กับครัว ด้านในมี internet บริการด้วย
สภาพ ในครัว
เตาไฟฟ้า มีประมาณ 4-5 เตา มีไมโครเวฟด้วย
สำรวจเสร็จเราก็ออกไปถ่ายรูป ริม Lake กัน
ไม่ค่อยสวยเท่าไรครับ คงเพราะมันช่วงเย็นๆ แล้ว
ไปแปปเดียวกลับเข้าที่พักคืน
นี่ดอกอะไรไม่รู้แข็งๆ เหมือนของปลอม สีดำสนิท อยู่หน้าห้องครัว
ก็กลับมาทำอาหารกัน อยากแนะนำว่า ไส้กรอก ของที่นี่ อย่าไปซื้อนะครับ
เคยเห็นในรีวิวไหน เคยบอกไว้แล้ว แต่ไม่เชื่อ อยากลอง
ไม่อร่อยเลย มีแต่แป้ง ไส้กรอกข้างทางที่เราซื้อกินที่ไทย อร่อยกว่าเยอะเลย
ปิดท้ายด้วยอาหารเย็นที่แสนธรรมดา ของเรา อิอิ
เจอกันใหม่ทริปหน้า จะพาล่องเรือไปเที่ยว Milford Sound ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น