วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

OLOS in New Zealand, So Much In Love [Day 6] " Deep in Freeze @ Te Anau "

สวัสดีครับ

หลังจากชมวิวสวยๆ ระหว่างการเดินทาง บนรถยนต์กันมาเยอะแล้ว

วันนี้จะพาไปล่องเรือชมวิว สัมผัสบรรยากาศทะเลกันบ้างครับที่  Milford Sound



เส้นทางการเดินทางวันนี้จาก  Te Anau สู่  Milford Sound มรดกโลก  ระยะทางประมาณ 121 km

ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด เรียกว่า "Fiordland National Park"
http://www.fiordland.org.nz/


วันนี้เราออกเดินทางจากที่พัก แต่เช้า ประมาณ 05.30 เพราะว่าจองเรือรอบ 09.00 น. ไว้ กลัวไม่ทัน

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ครับ อากาศตอนเช้ามืด หนาวมากกกกกก คาดว่าประมาณ 0 องศาได้

(อย่าลืมเติมน้ำมันไว้ตั้งแต่ตอนเย็นเมื่อวานนะครับ เพราะทางไป มิลฟอร์ด ซาวน์ ไม่มีปั้มน้ำมันเลย และตอนเช้าปั้มยังไม่เปิด)



ตอนเช้าๆ ถนนมืดมาก  ต้องเปิดไฟสูงขับกันเลยทีเดียว

แถมต้องคอยหลบกระต่ายป่า ที่ข้ามถนนอีกด้วย



ตามยอดเขายังคงมีหิมะอยู่บ้าง  อากาศข้างนอกลมแรงน่าดู บางช่วงก็เจอกลุ่มหมอก ขาว โพลน ทั้งสองข้างทาง  มองเกือบไม่เห็นทาง

ถนนเส้นนี้เรียกว่า " Milford Road " ด้วยนะครับ  ถ้ามาช่วงหน้าหนาวอาจจะต้องเช็คสภาพถนนกันก่อนครับ
http://www.milfordroad.co.nz

http://www.nzta.govt.nz



ประมาณ 07.20 เราก็ผ่านอุโมงค์  Homer Tunnel ตอนเช้า 06.00-09.00 ไม่ต้องรอสัญญาณไฟครับ

แต่ก่อนเราไม่สามารถมา Milford Sound ได้โดยรถยนต์นะครับ  จนกระทั่งอุโมงค์นี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1953

ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 20 ปี



ด้านในอุโมงค์ น่ากลัวนิดนึง เพราะปูนไม่ได้ฉาบ และ มีน้ำหยดลงมาเป็นระยะ

อุโมงค์นี้มีความยาว 1.2 km  อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 945 m



ไม่นานนักประมาณ 07.45 เราก็ถึงลานจอดรถ  Milford Sound  วิวตรงที่จอดรถก็สวยใช่เล่น


มี reflection เล็กน้อย


8โมงเช้าแล้ว ยังครึ้มๆ อยู่เลย


เราก็เดินตามทางไปเพื่อไปอาคาร  Milford Wharf Visitor Centre


เดินมาเรื่อยๆไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงแล้ว แต่เค้ายังไม่เปิด

คือที่นี่เค้าเปิด 08.00 ครับ ถึงจะเข้าไปเช็คอินได้



เข้ามาในตัวอาคาร หันขวาก็จะเจอแบบนี้ มีหลายบริษัทเลยครับ

ของพวกเราก็เคาน์เตอร์ แดงๆ โน่น



ด้านซ้ายก็จะมีอีกหลายบริษัท  มีตู้โทรศัพท์บริการด้วยนะ


เค้าว่ากันว่า เกิด ฟยอร์ด  Milford Sound มาได้ เพราะโดนตัวนี้ ใช้ขวานผ่าพื้นที่


มาเช็คอินกันก่อน ที่ Southern Discoveries เราจองตั๋วเรือทางเวบมาแล้วรอบเช้าสุด 09.00

ปกติคนละ 62 nz$ ได้ลด 10% ด้วยนะครับ  เหลือคนละ 55.8 nz$

แถมรอบเช้าสุด มี Continental Breakfast ให้ด้วย คุ้มซะไม่มี (ถึงแม้ไม่ค่อยได้กิน)  
http://www.southerndiscoveries.co.nz/


ได้ Boarding Pass มาแล้ว  

มาถึงก็ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตอะไรนะครับ เพราะมันตัดบัตรมาเรียบร้อยแล้ว



ด้านนอกอาคารก็จะเป็น ท่าเรือแล้วครับ เดี๋ยวออกไปเดินดูรอบๆ ดีกว่า


เรือหลายๆ บริษัทก็จอดเทียบท่า รอผู้โดยสารกันแต่เช้า


เรือลำนี้เอง " Lady of the Sound " ที่จะพาเราไป  


เรือลำอื่นๆ จอดเรียงรายกันไป  ลำเล็กๆ ก็มีครับ น่าจะราคาถูกกว่า


แสงแรก ของวัน เริ่มมา   พอเห็นเงาสะท้อนได้บ้างง

Milford Sound ที่นี่เป็น fiords ที่เดียว ที่มีถนนตัดเข้าถึงได้

ด้วยระยะทางกว่า 16 กิโลเมตร จาก อ่าวแคบๆ เป็นแนวยาว สู่   Tasman Sea



จะว่าไปแล้ว วิวทั่วไปก็เฉยๆ  ตื่นเต้นตรงเงาสะท้อนบนผิวน้ำมากกว่า


บริเวณท่าเรือนี้น้ำใสมาก จึงเรียกว่า Freshwater Basin ใสจนเห็นเงาสะท้อนเลย

ด้านหลังเห็นยอดเขา   Mitre Peak เป็นยอดเขาโผล่จากพื้นทะเล ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 1682 เมตร



ได้เวลาขึ้นเรือ ก็ให้ Boarding Pass กับเจ้าหน้าที่ไป

มีถ่ายรูปก่อนขึ้นเรือด้วย  คิดเหรอ ว่าเราจะซื้อ อิอิ

บรรยากาศบนเรือมีที่นั่งสองชั้น   ไม่รวม ดาดฟ้า เรือ



เราไปนั่งกันชั้นบน จากนั้นก็ไปเอาอาหารเช้า ที่เค้าจัดไว้ให้ที่ชั้นล่าง

ก็มีพวก น้ำส้ม ขนมปัง นม เนย แยม  คอนเฟลก ประมาณนี้ครับ

ส่วนห้องน้ำ ก็อยู่ที่ชั้นล่างเช่นกัน



จุดสำคัญต่างๆ ที่เราจะไปชมกัน


เริ่มออกเดินทางแล้ว เร็วมากครับ ยังไม่ทันเตรียมกล้องเลย


ถ่ายด้านหลังเรือมองกลับไปจะเห็น  Bowen Falls

ขาวๆ นั่นก็เป็นท่าเรือที่เราเพิ่มแล่นออกมานั่นเอง อยู่ใกล้ๆ กันเลย



Bowen Falls เป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปี  ตกลงมาจากความสูง 161 เมตร

ซึ่งถือว่าสูงที่สุดใน Milford Sound (น้ำตกที่มีน้ำตลอดปี อีกแห่ง คือ Stirling Falls)

ชื่อเต็มๆของน้ำตกนี้ คือ "Lady Bowen Falls" ตั้งชื่อตามภรรยาคนแรกของผู้ปกครองเมืองนิวซีแลนด์



วิวระหว่างทาง ถ่ายมามั่วเลยครับฟังเค้าบรรยายก็ฟังไม่ค่อยทัน 

ขนาดเอาปากกาไปจด ว่าตรงนี้คือจุดไหน กลับมายังงง



Stirling Falls  เป็นน้ำตกอีกแห่งที่มีให้เห็นตลอดปี  ด้วยความสูง 155 เมตร

เค้าบอกว่าหลังฝนตก น้ำตกจะสวยมากๆ น้ำตกนี้ ตั้งชื่อมาจาก Captain Stirling

1 ในกลุ่มผู้สำรวจพื้นที่นี้



Copper Point ที่ชื่อนี้เพราะว่า พบ copper จำนวนมากในบริเวณนี้

และบริเวณนี้ยังเป็น 1 ในส่วนที่แคบที่สุดของ ฟยอร์ดอีกด้วย



Fairy Falls ชื่อนี้ก็ตั้งตามสายรุ้งที่เกิดขึ้น

เป็นอีกจุดนึงที่สวยมากๆ ของ Milford Sound  ชอบน้ำตกนี่จังง

น้ำตกนี้ เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ปริมาณน้ำจะแห้งไป ถ้าไม่มีฝนตก



สายรุ้งเห็นแค่มุมนึง แปปเดียวก็ไม่เห็นแล้วครับ ต้องเตรียมตัวให้ดี

เพราะพอเรือแล่นไป มุมมันไม่ได้ก็จะไม่เห็น



ดูสดชื่นจริงๆ


ด้านขวาเป็น Dale Point ซ้ายมือก็จะเริ่มออกสู่ ทะเล Tasman แล้ว


คู่นี้กำลังชม บรรยากาศอันสวยงาม

ส่วนใหญ่มากันแบบ สามี - ภรรยา ทั้งนั้น



คู่นี้ก็หวานไม่แพ้กัน


อากาศบนดาดฟ้า หนาวมากกกกกก บวกกับมีลมด้วย ทำให้หนาวไปใหญ่  เกือบ 0 องศาได้

ตอนนี้เรือเริ่มวนกลับ ไปอีกฝั่งแล้ว



จุดแรกที่แวะคือ Seal Rock

เป็นเพียงไม่กี่จุดใน Fiord ที่ แมวน้ำสามารถปีนขึ้นมาบนโขดหินได้

เค้าบอกว่าเป็น  the Southern Fur Seal ด้วย



ที่นี่ต่างกับเขาสกบ้านเราตรงที่ ภูเขาที่โผล่พ้นน้ำใหญ่กว่า น้ำก็สีสวยกว่า


Stirling Falls แบบใกล้ๆ


มีเครื่องบินบินผ่านด้วย     ใครอยากขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิว ก็มีนะครับ แต่แพงน่าดู


ความคิดเห็นที่ 59  
มาชมวิวแบบ panorama กันบ้าง smile
 
 

จากคุณ : One Light One Shadow
เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:29:35
ถูกใจ : m_stay22



Harrison Cove เมื่อต้นค.ศ. 1800 เดิมแต่ก่อนเคยใช้เป็นที่จอดเรือของนักล่าวาฬ/แมวน้ำ


ใกล้ๆกันเป็น Milford Discovery Centre and Milford Deep

ใครอยากชมโลกใต้ทะล ก็ซื้อทัวร์ได้เช่นกัน ราคาคนละ  29nz$

ด้านในก็จะคล้ายๆมีการจัดแสดงการเกิดขึ้นของ ฟยอร์ด  โดยสร้างลึกลงไปที่ระดับความลึก 10 เมตร

สามารถเห็นวิวได้ 360 องศา เช่น สัตว์ทะเล ต่างๆ  หรือ สาหร่ายหายาก อย่าง Black Coral



ได้เวลากลับแล้ว ตรงเวลาเป๊ะๆ 10.45 ก็ถึงฝั่งพอดี


วิวบริเวณที่จอดรถเมื่อเช้า ตอนนี้ฟ้าแจ่มแล้ว


ออกเดินทางกันต่อ  ขากลับ ระหว่างทางก็มีหลายที่ ที่เราต้องแวะ จะเห็นได้ว่ามีหลาย track ให้เดินมากมาย

เมือง Te Anau จึงถูกรู้จักในชื่อของ " The Walking Capital of the World "



นี่คือ จุดสำคัญๆ ครับ มีหลายที่เลย แต่เราคงเลือกแวะแค่บางที่ ที่น่าสนใจ ครับ เพราะมีเวลาไม่มากนัก


ถึงแล้ว The Chasm อยู่ด้านขวามือครับ เลี้ยวขวาเข้ามา ก็จะเป็นลานจอดรถ กว้างมาก

ตอนขาไป Milford Sound ก็มองๆ ไว้ก่อนนะครับ ว่าแต่ละที่ที่จะแวะอยู่ช่วงไหน จะได้ไม่พลาด



ป้ายหน้าทางเข้า มีรูปนก KEA ด้วย   ถือเป็นสัตว์คุ้มครอง  นะครับ

แต่ตั้งแต่มายังไม่เห็นซักกะตัว   เค้าบอกว่า เป็นนกแก้วชนิดหนึ่งที่พบเฉพาะที่ เกาะใต้ นิวซีแลนด์เท่านั้น



ต้นไม้รูปทรงแปลกตา ยังกับอยู่บนภูกระดึง


แดดแรงเหมือนกัน แต่เข้าป่า แล้วคงเย็นสบาย



เดินไปแปปเดียว จะเจอลำธาร น้ำไหลแรงเชียว


มีสะพานเป็นช่วงๆ มองลงไปก็จะเป็นเหวลึกครับ มีน้ำไหลผ่านซอกหินแรงมาก

ไม่กล้าหย่อนกล้องถ่าย... เสียว  กลัวกล้องเจ๊ง เพราะละอองน้ำสาดเยอะด้วยล่ะครับ



เดินชมแปปเดียวก็กลับออกมา  ตอนนี้ก็ 11.40 แล้ว ออกเดินทางกันต่อ


วิวสวยๆ ที่ตอนเช้าเรามองไม่เห็น เป็นแบบนี้นี่เอง


ขากลับ ผ่านอุโมงค์ อีกรอบ คราวนี้ติดไฟแดง ต้องรอสัญญาณไฟ สักพัก


ส่วนใหญ่จะเป็นทางราบ ขับสบายๆ เว้นแต่ช่วงก่อนถึงอุโมงค์  ที่คดเคี้ยวขึ้นเขานิดหน่อย


และแล้วก็มาถึง Mirror Lake  

อยู่ด้านขวามือนะครับ อยู่ติดถนนเลย  เดินไปไม่ถึง 5 นาที



แผนที่แสดงสถานที่ที่น่าแวะชมต่างๆ เยอะมากครับ

ถ้าใครมีเวลามาเดิน track ต่างๆ คงสนุกน่าดู



เดินมาแปปเดียวก็ถึง จุดแรก  ฟ้าเป็นใจมากๆ เห็นเงาสะท้อนด้วย


สวยมาก ชอบที่นี่กว่า มิลฟอร์ด ซาวนด์ ซะอีก


มาดูมุมซ้ายมั่ง แต่คนเยอะเหมือนกันครับ เวลาถ่ายรูปที ต้องรีบๆ ถ่าย

เกรงใจคนรอ เพราะ พื้นที่ยืนมันแคบไปนิด



มาดูอีกจุดนึง จุดที่สองจะมีป้าย Mirror Lake กลับหัว ปักอยู่ในน้ำ

และแล้วก็เจอฝูงเป็ดน้อย หรือนกหว่า บางตัวก็เห็นมันบินได้



มุมยอดฮิต ใครไม่ถ่ายเหมือนมาไม่ถึง

แต่เจอเงาบังเยอะไปนิดดดด  กว่าจะถ่ายได้ น้ำไม่นิ่งเพราะฝูงเป็ด ดำผุดดำว่ายอยู่แต่แถวๆ ป้าย





มุมกว้างๆ กันบ้าง


จากนั้นก็เดินกลับมาที่จอดรถ มานั่งกินมื้อเที่ยง ที่ทำมาตั้งแต่เมื่อวาน  ..อาหารเย็นเฉียบ


อิ่มแล้วเดินทางกันต่อ  ต้นไม้แห้งๆ นี่สวยจัง


วิวสวยๆ แบบนี้ น่ามาซื้อที่ สร้างบ้าน


เห็น Lake Te Anau ไกลๆ


ป้ายเตือนเป็นระยะๆ ชอบป้ายของที่นี่นะครับ มีหลายแบบเลย

ออกแบบสวย ไอเดียดี  บ้านเราไม่ค่อยเห็นนะ

ลืมบอกไป มีบางท่านหลังบ้านมาถาม เรื่องที่กินข้าวนะครับ

ผมเห็นตรงแถวๆ Macgree Creek มีลำธารสวยๆ มีโต๊ะนั่งกินข้าวด้วยครับ

เผื่อใครจะแวะกินมื้อเที่ยงหลังกลับจาก มิลฟอร์ด ซาวน์ด ก็โอเคเลย



โค้งนี้ เห็น Lake Te Anau เต็มๆ   เป็น Lake ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาะใต้

และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนิวซีแลนด์ รองจาก Lake Taupo

แต่ตอนไปจำไม่ได้แล้วว่าผ่านจุดนี้เมื่อไร สงสัยมัวแต่ถ่าย จนลืมดู



ยังใช้เส้นทางเดิม กับที่เรามา  เส้นทางหลวงหมายเลข 94

ถนนช่วงนี้สวยดีนะครับ เห็นเป็นลอนคลื่นเลย




ประมาณ 14.00 เราก็ถึง Te Anau  แวะเติมน้ำมันกัน ที่นี่ลิตรละ 1.879 nz$

จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ Queenstown ที่พักของเราในค่ำคืนนี้



เราเดินทางต่อด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 94

และตัดไป เส้นทางหลวงหมายเลข 6 เพื่อไปยัง Queenstown



เมฆก้อนแบนๆ ยาวๆ  แปลกดี   ที่นี่เจอแต่เมฆสวยๆ ทั้งนั้น


รถก็ไม่เยอะ  วิวก็สวยสุดๆ  หลงรักนิวซีแลนด์ซะแล้ว


จะมีที่ไหนอีก ที่วิวสวยทั้งประเทศ แบบนี้




มีช่วงนึงเห็นกังหันลมอยู่ไกลๆ



14.50 เริ่มเข้าสู่ Mossburn  แวะเข้าห้องน้ำกันก่อน 


ฝั่งตรงข้ามมีร้านขายไอติมด้วย ใช่ชื่อ ทิปท๊อป เปล่าหว่า

ที่เห็นบ่อยๆ เป็นไอติมของนิวซีแลนด์




หลังจาก Mossburn ก็ระวังรถตำรวจด้วยนะครับ

ที่บอกไปในรีวิวก่อนหน้านี้  จอดอยู่ที่เดิมเลย ฮ่าฮ่าฮ่า

ถ้าขับเกินกำหนด ล่ะก็ เสร็จแน่ !!



ม้าที่นี่ ใส่เสื้อ ทุกตัวจริงๆ




แกะเยอะสุดๆ  มองไกลๆ เหมือนจุดอะไรซักอย่าง


เจอขบวนรถย้อนยุคด้วย เท่ซะไม่มี


เข้าสู่ เมือง Athol


เสาไฟที่นี่  ยังกับเข็มสอยผ้าอันยักษ์ มีสองขา


เข้าสู่เมือง Kingston แล้ว ความเร็วได้เยอะกว่าเมืองอื่น


เห็น Lake Wakatipu ก็แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว




วิวกว้างๆ ของ  Lake Wakatipu


อิจฉาคนมีบ้านริมทะเลสาบ นะครับ วิวสวย บรรยากาศดี


และแล้วก็มาถึง ที่พักของเราคืนนี้ YHA Queenstown Front Lake

ตอนแรกที่จอง เพราะเห็นอยู่ใกล้เลคเลย จริงๆ YHA อีกที่นึงในเมือง แต่กลัวหาที่จอดรถลำบาก

แต่เดินเข้าเมืองก็ไม่ไกลนะครับ



ด้านในมีที่จอดรถประมาณ ไม่ถึง 10 คันครับ

แต่ตอนเย็นๆ มาจอดด้านนอกริมถนนก็ได้ ไม่เสียตังค์



เข้ามาเช็คอินกันก่อน จากนั้นก็ขึ้นบันไดมาเลยครับ

RECEPTION HOURS: 6.30am-10pm

Check in time: 2.30pm, Check out time: 10am



เราจองห้องแบบ 6 Bed Multishare Mixed  คนละ 27 nz$

ถ้าไม่มีบัตร สมาชิก YHA จ่ายเพิ่มอีก คนละ 3 nz$ ครับ

เดินขึ้นมาที่ชั้น 3 ซ้ายมือห้องแรก เลย ด้านในเป็นแบบนี้ มีหน้าต่างบานเล็กๆ 1บาน



ยังดีไม่เหมือนที่ chc ที่โดนโยนไปนอนรวมกับคนอื่น ทั้งๆ ที่จอง ห้อง 6 คนมา

ห้องก็แคบๆ มีเตียงวางพอดี 6 คน จริงๆ ห้องนี้พักได้ 8 แต่เค้าถอดเตียงออกครับ

แล้วก็มีที่วางของตรงกลาง



พาไปดูห้องน้ำบ้าง สะอาดมาก ครับ ไม่ค่อยมีคนใช้เลย


ห้องอาบน้ำ




ห้องพักผ่อนอยู่ที่ชั้น 2 ขึ้นบันไดมาอยู่ซ้ายมือครับ


internet ก็มีให้บริการ อยู่เลยครัวเข้าไปด้านในสุด


พามาดูครัวกันบ้าง อยู่ที่ชั้น 2


18.00 ก็เริ่มทำกับข้าวมื้อเย็นกัน ทำเสร็จ มีแต่คนเดินมามอง สงสัยน่ากิน

เห็นเดินมาแอบดูที่โต๊ะกันใหญ่เลย ฮ่าฮ่าฮ่า  กว่าจะเสร็จก็เกือบทุ่มนึง



ประมาณ 20.00 ก็ออกไปเดินซื้อของฝากกัน เล็กน้อย ที่ร้านนี้


ของก็ไม่ได้ถูกนะครับ  เลยไม่ได้ซื้ออะไรเลย มีแต่คนอื่นซื้อ  
ลากันด้วย รูปนี้  เห็นรีวิวอื่นถ่ายเจ้านี่ มา เลย ถ่ายมามั่ง  เอาไว้ให้ความอบอุ่น อิอิ ฮ่าฮ่าฮ่า

เจอกันใหม่ทริปหน้า จะพาไปเที่ยวต่อ ที่ Arrowtown - Mt.cook - Tekapo ครับ



1 ความคิดเห็น: