สดีครับ
หลังจากพาเพื่อนๆเดินทางท่องเที่ยวแบบ Road Trip กันมาหลายกระทู้ ในที่สุดก็มาถึง ตอนสุดท้าย แล้วครับ วันนี้เราจะเดินทางไปยัง " Zion National Park " อุทยานทางธรรมชาติที่งดงาม และ ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของ Utah
สำหรับความยิ่งใหญ่ของที่นี่เทียบแล้วไม่แพ้ Yosemite National Park เลยครับ มี Trail ต่างๆ มากมาย
ที่น่าตื่นเต้นเห็นจะเป็น Angels Landing ซึ่งต้องปีนป่ายไปบนยอดเขาสูง ทางเดินก็แคบซะจนน่ากลัว ถ้าตกลงไปคงไม่รอดแน่ๆ
หรือจะเป็น " The Narrow " ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชอบการผจญภัย เดินลุยไปตามแม่น้ำ ก็น่าตื่นเต้นไม่น้อย
นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง อยากให้ลองติดตามชมที่นี่ กับ Zion National Park นะครับ
พร้อมแล้วตามมาเลยนะครับ
แผนการเดินทางในวันนี้
http://goo.gl/AFhX7n
เช้านี้ เราเดินทางออกจาก Ruby's Inn โดยเลี้ยวซ้ายไปตามทางที่เราขับเข้ามา
จากนั้น เลี้ยวซ้ายไปตามป้าย US-89
ซึ่งเป็นเส้นทางที่เราเลี้ยวเข้า Bryce Canyon มาเมื่อวาน
ข้างทางมีที่พักหลายแห่ง ครับ หากไม่พักด้านใน ก็สามารถหาที่พัก แถบๆ นี้ได้
มีสนามบินด้วยนะ แต่น่าจะสำหรับเครื่องบินเล็ก
ขับมาได้ไม่นาน จะผ่าน Red Canyon ครับ สังเกตได้จากภูเขาข้างทางจะเป็นสีส้มแดง ไปตลอดทาง
http://www.fs.usda.gov/recarea/dixie/recreation/climbing/recarea/?recid=24942&actid=120
ถนนตัดผ่านเขาเป็นอุโมงค์เล็กๆ ด้วย นี่เป็นอีกมุมที่นักท่องเที่ยวนิยมเก็บภาพครับ
ที่ Red Canyon เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอย่างมาก จนถูกกล่าวว่าเป็น สถานที่ที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดใน Utah เลยทีเดียว !!
เนื่องจากว่า นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึง Red Canyon ได้ง่าย และยังสามารถมองเห็นได้จากริมถนน คือขับรถเส้นนี้ ยังไงก็ต้องผ่านครับ
ขับมาจนถึง Visitor Center ครับ แต่ยังไม่เปิด เนื่องจากยังเช้าอยู่
ขับต่อไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางหมายเลข 12
ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้น US-89
ผ่านเมือง Glendale เมืองเล็กๆ มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ระหว่างทาง
เราแวะเติมน้ำมันกันกลางทางครับ มองไปที่หลังปั้มเป็นภูเขาหิน สังเกตเห็นตัวเลขติดอยู่บนหินด้านบน อยากรู้จังว่ามันคืออะไร ?
เดินทางกันต่อครับ นานๆ จะเจอทุ่งหญ้าสีเขียวๆ สักที มองแล้วสดชื่น
ผ่านเมือง Orderville มาสักระยะ จะเจอปั้มน้ำมันเยอะๆ ให้เลี้ยวขวา เข้าสู่เส้นทางหมายเลข 9 มุ่งหน้าสู่ Zion National Park ครับ
อีกไม่ไกล ก็จะถึงแล้วครับ
สังเกตสีของถนน จากเทาๆ กลายเป็นสีแดงๆ นั่นแสดงว่าเราเข้าสู่ Zion National Park แล้ว
สงสัยกันใช่ไหมครับ ว่าทำไมถนนมีสีแดง ?
ก็เนื่องจากทางอุทยานใช้ red cinders หรือขี้เถ้าสีแดง มาผสม
เทราดบนผิวถนน จนทำให้ถนนกลายเป็นสีแดง ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ
Zion ไปแล้ว
http://www.nps.gov/zion/index.htm
สำหรับค่าธรรมเนียมเข้า คันละ $25 ครับ เราใช้ Annual Pass เหมือนเดิม
หลังจากผ่านทางเข้า เราจะแวะจุดแรกกันที่นี่ครับ " Checkboard Mesa "
สังเกตจะเห็นลักษณะพื้นผิวด้านนอกเป็นตารางๆ
ซึ่งเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการหดขยายตัวของชั้นหิน Navajo
Sandstone ครับ
แวะถ่ายแปปเดียว ฟ้าเทาๆ ก็เริ่มกลายสว่างกลายเป็นสีฟ้าสวยอย่างที่เห็น เดินทางกันต่อเลยครับ ฤกษ์ดีละ อิอิ ทัศนียภาพของ Zion National Park ยิ่งใหญ่มากๆครับ วิวน่าตื่นตาตื่นใจตลอดทาง
รถวิ่งผ่านอุโมงค์อันแรก ลอดเขา ระยะทางสั้นๆ ครับ
หลังจากนั้น ไม่ไกล ก็ลอดผ่านอุโมงค์ที่ 2 The Zion-Mount Carmel Tunnel ซึ่งอุโมงค์นี้มีระยะทางที่ยาวมาก ระยะทางประมาณ 1.1 ไมล์
http://www.nps.gov/zion/planyourvisit/the-zion-mount-carmel-tunnel.htm
ระหว่างทางในอุโมงค์ ก็จะเจาะช่องแสงใหญ่ๆ เป็นระยะๆ
นั่งมาพออึดใจ ถึงทางออกแล้วครับ วิวสวยมากเลย
พอพ้นจากอุโมงค์ออกมา เส้นทางช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงริมหน้าผาสูงครับ ถนนจะซิกแซกพับไปพับมาตลอดเวลา
นั่งรถชมวิวไปก็ลุ้นไป แต่วิวสวยน่าตื่นตาตื่นใจมากกว่า จนลืมตื่นเต้นเลยครับ
ขับลงเขามาจนถึงช่วงโค้งหักศอก พอมีที่จอดรถ เลยขอแวะจอด แชะภาพไว้สักหน่อย ก่อนออกเดินทางต่อ
เส้นทางก็ขึ้นลงเขา สลับกันไปเป็นระยะครับ มีมุมไหนที่จอดได้ เราแวะหมด
พอลงจากเขาเข้าสู่ทางราบ ก็ใกล้ถึงแล้วครับ
เดี๋ยวเราจะตรงไปที่ Visitor Center เพื่อเอารถไปจอดที่นี่กันก่อนครับ
ถึงลานจอดรถแล้ว ถ้ามาช้ากว่านี้ อาจจะหาที่จอดยากนิดนึงครับ ลานจอดที่นี่เป็นลานจอดกลางแจ้ง
แม้จะร้อนแต่ก็อยู่ใกล้ Visitor Center มากที่สุดแล้วครับ แทนที่จะเสียเวลาไปจอดในเมือง แล้วค่อยนั่ง Shuttle Bus เข้ามา
เดินข้ามถนน ผ่านจุดจอด Shuttle Bus ไป ก็ถึง Visitor Center แล้วครับ
ภายในและภายนอกอาคาร มีการจัดแสดงข้อมูลต่างๆ เช่นเคย
หากใครมีโปรแกรมจะเดิน Trail ก็มีก๊อกน้ำให้เติมน้ำดื่มกันด้วย
มาดูแผนที่จุดจอด Shuttle Bus กันก่อนครับ
สายแรก ภายใน Zion National Park จะเริ่มต้นจาก Visitor Center ไปสุดสายที่ Temple of Sinawava
และอีกสายคือ วิ่งจากเมือ ง Sprindale มาสุดที่ Zion Canyon Theater
โดยเราสามารถเดินต่อมายัง Visitor Center เพื่อต่อ Shuttle Bus ภายใน Zion
National Park ได้
พร้อมแล้วเดินมาขึ้น Shuttle Bus กันเลยครับ อย่าลืมเข้าแถวให้เรียบร้อยด้วยนะครับ
แผนของเราคือ จะนั่งจาก Visitor Center ไปลงที่ป้ายสุดท้าย " Temple of Sinawava " ซึ่งอยู่ด้านบนสุดของแผนที่
ผ่าน Zion Human History Museum และอีกหลายแห่ง ซึ่งเราไม่ได้แวะ 555
จนในที่สุดเราก็มาถึงป้ายสุดท้าย " Temple of Sinawava " ลงกันที่นี่เลยนะครับ เราจะไปเดิน Riverside Walk กัน
ด้านหน้าทางเข้า " Riverside Walk " ครับ ทางเดินก็เดินสบายๆ เลียบเขาไปเรื่อยๆ ครับ
ระยะทางไปกลับประมาณ 2.2 ไมล์ ใช้เวลาเดินประมาณ 70-90 นาที ครับ
เดินมาแปปเดียว เจอเจ้าถิ่นอีกละ เจอเมื่อไร ได้หยุดเมื่อนั้น 555 ตัวอวบอ้วน น่ารักซะขนาดนี้
ทางเดินจะเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ ครับ เดินกันเพลินๆ
บางจุดตามแนวหน้าผาที่เราเดินเลียบมา จะมีน้ำไหลหยดลงมาเป็นทาง ต้องคอยหลบกันนิดหน่อย
น้ำใส ไหลเย็น น่าลงไปเดินลุยน้ำเล่น
แต่ช้าก่อน เราเจอเจ้ากระรอกอยู่ที่ริมแม่น้ำด้วย มาดูซิว่ามันน่ารักขนาดไหน
แพลงกิ้ง แปป 5555
น่ารักจริงๆ
เดินไป แวะไปตลอดทาง บางจุดก็มีลำธารกว้างๆ เดินลงไปถ่ายรูปได้ครับ
เจ้าหน้าที่กำลังตักเศษทรายบนทางเดินออก ทรายพวกนี้มาจากบริเวณริมแม่น้ำ ที่นักท่องเที่ยวเดินลงไป และติดรองเท้าขึ้นมา
ใช้เวลาประมาณ ไม่ถึงชั่วโมง เราก็มาถึงปลายทางแล้วครับ จากนี้ไป ก็จะเป็น
Trail ที่มีชื่อว่า " The Narrow "
ซึ่งต้องเดินลุยน้ำเข้าไปตามเส้นทางที่แม่น้ำไหลมา ระยะทางไกลทีเดียวครับ
ต้องมีการเตรียมตัวทั้งเสื้อผ้า และอุปกรณ์ต่างๆ มาอย่างดี
อีกทั้งต้องระวัง FlasH Flood
ด้วยเนื่องจากระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน
ดังนั้นต้องตรวจสอบสภาพอากาศ การเตือนภัยล่วงหน้าก่อนนะครับ
ตัวอย่าง The Narrow เป็นแบบนี้ครับ
http://www.utah.com/nationalparks/zion/zion_narrows.htm
Credit : http://en.wikipedia.org/wiki/The_Narrows_%28Zion_National_Park%29
เดินกลับกันดีกว่าครับ ใช้เส้นทางเดิมที่เราเดินมา ขากลับรู้สึกจะใช้เวลาน้อยกว่าขามาเยอะ เพราะไม่ต้องแวะชมอะไร
จากนั้นเราก็ขึ้น Shuttle Bus จาก Temple of Sinawava ไปลงที่ Zion Lodge
ระหว่างทางก็ชมบรรยากาศข้างทาง พร้อมกับฟังเจ้าหน้าที่ ซึ่งขับรถไปด้วย บรรยายไปด้วย อธิบายข้อมูลตามจุดต่างๆ
บางจุด ก็ชวนให้ดูบนหน้าผา จะเห็นมีนักปีนเขากำลังไต่หน้าผาอยู่ เก่งจริงๆครับ เพราะรู้สึกจะไม่มีสลิงด้วย
ถึงแล้วครับ " Zion Lodge "
เจอทางเข้า Trail " The Grotto " อยู่ตรงป้ายเลยครับ
บริเวณโดยรอบ Zion Lodge จะเห็นนักท่องเที่ยวเยอะเลยครับ
ที่นี่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ รวมถึงสนามหญ้ากว้าง ๆให้ได้นั่งเล่น
ทำกิจกรรมต่างกัน
เราเดินไปทางขวาตามทางเดิน ผ่านสนามหญ้าไปตามเส้นทางเรื่อยๆ
จะเจอป้าย " Emerald Pools Trail " เดินไปตามป้ายเลยครับ
ข้ามถนนไป ก็จะเจอทางเข้า Trail แล้วครับ
เดินไปนิดเดียวก็เจอสะพานข้ามแม่น้ำครับ เด็กๆ มาเดิน Trail กันเต็มเลย
วิวจากบนสะพาน จะเห็นเป็นลำธารตื้นๆ ไหลผ่าน ร่มรื่นทีเดียวครับ
สำหรับเรา ขอไปแค่ " Lower Emerald Pools " ก็พอครับ ระยะทางประมาณ 900 เมตร
ทางเดินแรกๆ เป็นทางซีเมนต์ จากนั้นจะเป็นทางดินลูกรังครับ
ช่วงแรกสบายๆ หลังๆ เริ่มเหนื่อย ร้อนด้วยครับ แดดจัดซะขนาดนี้
เดินไป หยุดพักชมวิวไป (จริงๆพักเหนื่อย 55)
เจอป้ายแล้วครับ ว่าแต่ตกลงถึงหรีอยังเนี่ย อิอิ
ทางเดินช่วงนี้เป็นทางเดินแคบๆ ใต้หน้าผา ด้านบนมีน้ำไหลตกลงมา ต้องระวังลื่นกันนิดนึงครับ
มองหา Pools อยู่ไหนหว่า ... เอ่อ ไม่มีน้ำเลยครับ
ตอนแรกกะจะเดินไปถึง Middle Pools แต่เปลี่ยนใจไม่ไป ดีกว่า ดูสายน้ำที่ตกลงมาอันน้อยนิดแล้ว ถ่ายแค่นี้ก็พอ 555
ว่าแล้วก็เดินกลับดีกว่า ที่บ้านรออยู่นานละ
สำหรับ Trail อื่นๆ ที่มีชื่อเสียง ก็ได้แก่ Angels Landing
Credit : http://de.wikipedia.org/wiki/Angels_Landing
ขอยืมรูปพี่เหมียวมาให้ชมนะครับ เพราะไม่กล้าไปปีนจริงๆ 555 แค่เห็นรูปก็เสียวละครับ เกิดหมดแรง ร่วงลงมาง่ายๆเลย
Credit @ha-meow : http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12494113/E12494113.html
ออกจาก Zion Lodge เราก็ตรงดิ่งมายัง Visitor Center
ก่อนกลับ แวะเข้าไปดูใน Visitor Center ซื้อของที่ระลึกกันสักหน่อย
ก่อนจะไปเอารถ และขับเข้าเมือง Springdale กันครับ
เข้าสู่เมือง Springdale กันแล้วครับ เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ
ที่อยู่ใกล้ Zion National Park มากที่สุด มีที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร
คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมายครับ
เราจะมาพักกันที่เมืองนี้ครับ
นั่นไงที่พักของเรา ตรงป้ายที่มีโลโก้เป็นกลมๆ
เหมือนดวงอาทิตย์ ซ้ายมือเป็นที่ทำการไปรษณีย์
เผื่อใครจะส่งโปสการ์ดหาเพื่อนก็ส่งได้ที่นี่เลย
แต่เรายังไม่เข้าที่พักครับ ขอไปแวะซื้อน้ำ ซื้อของกิน ที่ซุปเปอร์กันก่อน
ที่ Sol Foods ภายในใหญ่พอสมควรครับ ใครมาเมืองนี้ลองแวะดูครับ
สภาพภายในเมืองโดยรวม สวยงาม มีวิวด้านหลังเป็นภูเขาหินซะด้วย เก๋สุดๆ
เข้าที่พักกันดีกว่าครับ ที่พักของเรา ชื่อ " Desert Pearl Inn "
ตอนแรกตั้งใจจะมาจอดรถที่นี่ แล้วนั่ง Shuttle Bus เข้าไปเที่ยวใน Zion เพราะด้านหน้าที่พักมีป้ายจอดชัทเทิลบัส พอดีครับ
http://www.desertpearl.com
มาดูแผนที่จุดจอด Shuttle Bus ใน Springdale ครับ
ได้กุญแจแล้ว ขับอ้อมไปที่ตึกด้านหลังเลยครับ จอดรถกันที่หน้าตึกเลย
เราได้ห้องพักที่ชั้น 2 ต้องเหนื่อยหอบสัมภาระกันนิดหน่อย
เปิดประตูห้องเข้าไป ว้าว!! สวยเชียว ด้านขวามือ เป็นห้องน้ำครับ
ขวามือเป็นอ่างล้างหน้า ซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้า และเก็บอุปกรณ์ต่างๆ
ด้านในสุด ขวามือเป็นอ่างอาบน้ำ ซ้ายมือเป็นโถชำระ
มาดูในส่วนห้องนอนกันบ้างครับ ผนังตกแต่งโทนสีเขียวมะนาว ประกอบไปด้วยเตียงขนาดควีนไซส์ 2 เตียง ด้านในสุดมีโซฟาให้ด้วยครับ
อีกด้านเป็นโต๊ะทำงาน มีทีวี ตู้เย็น และครัวเล็กๆให้
ที่ครัว มีทั้ง เครื่องชงกาแฟ ไมโครเวฟ เตาอบเล็กๆ และเครื่องล้างจานให้ด้วย ครบเลย
รวมถึงโต๊ะทานอาหารเล็กๆ อยู่ที่มุมห้อง
ออกมาที่ระเบียงกันบ้าง มีเก้าอี้ไม้ให้นั่งรับลมเย็นๆ ที่นอกห้อง
ด้านหลังห้อง เห็นวิวแม่น้ำเล็กๆ บรรยากาศร่มรื่นทีเดียวครับ
สนามหญ้าสีเขียวด้านล่าง มองดูแล้วก็สดชื่น วันที่ไปมีแขกมาจัดปาร์ตี้เล็กๆกันริมแม่น้ำด้วยครับ
น้ำไหลแรง และเย็นเจี๊ยบเลยครับ
หลังจากสำรวจห้องพัก และพักเหนื่อยกันแล้ว ก็ได้เวลาออกไปเดินเมืองกันครับ
ที่สะดุดตาร้านแรก คือ " ร้านขายหิน "
มีหินเรียงรายอยู่หน้าร้านเต็มไปหมดครับ ขายกันเป็นก้อนใหญ่ๆเลยทีเดียว
มีหลากหลายสีสัน ขายกันตามน้ำหนักเป็นปอนด์ ครับ
ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินกันตามท้องถนนครับ เป็นเมืองที่ขายนักท่องเที่ยวจริงๆ
เดินเหนื่อยแระ แวะกินไอติมกันก่อน อิอิ
ก่อนจะกลับเข้าที่พัก พักผ่อนกันเต็มที่ เพราะพรุ่งนี้เช้าเราจะเดินทางกลับ L.A. แล้วครับ
เช้าวันที่ 18 เราออกเดินทางจาก Sprindale มุ่งหน้าสู่ Los Angeles ครับ
จากรัฐ Utah เข้าสู่ Arizona
เข้าสู่ Nevada ผ่าน Las Vegas อีกรอบ
ขับรถนาน ก็แวะ Rest Area ทานข้าว แวะเข้าห้องน้ำกัน ก่อนเดินทางต่อ กว่าจะถึงที่พัก ก็ช่วงเย็นๆ ละครับ
วันที่ 19 ของการเดินทาง ตอนแรกแพลนจะไป San Diego ครับ แต่ยกเลิก
เพราะเปลี่ยนใจไปช็อปปิ้ง ซื้อของฝาก กันแทน จึงไม่มีรีวิวนะครับ อิอิ
ข้ามมาวันสุดท้ายของการเดินทาง ที่สนามบิน LAX ครับ
เร็วมากๆ กับเวลาเที่ยวที่หมดไปอย่างรวดเร็ว ตอนแรก คิดว่าจะนานไปไหม
แต่เราเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ แต่ละวันไม่ซ้ำ จึงทำให้ไม่เบื่อเลยครับ
เราเช็คอินออนไลน์มาแล้ว มาต่อแถวนี้เพื่อโหลดกระเป๋าเลยครับ
เดินไปรอที่เกทกันเลยดีกว่า แถวๆ เกท ก็มีร้านขายของที่ระลึกต่างๆ แน่นอน ราคาสูงกว่าปกตินิดนึง
ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว
เห็นหลายคนสงสัยกัน ตราประทับตอนขาเข้า เป็นแบบนี้ ครับ มีระบุเวลาที่สามารถอยู่ในอเมริกาด้วยนะครับ
Take off แล้วครับ Bye Bye U.S.A.
อาหารมื้อแรกบนเครื่อง อร่อยมากครับ เป็นไก่ผัดซอสอะไรสักอย่าง ทีเด็ดคือ มีไอติมด้วย
ส่วนมื้อถัดไป เห็นยังไม่เสิร์ฟสักที เลยขอบะหมี่คัพจากพนักงาน มาทานก่อน
เพราะทนไม่ไหว หิวแล้ว กลายเป็นพนักงานเสิร์ฟมาแทนมื้อจริงเลยครับ แป่ววว
แต่ยังดีพนักงานเอาข้าวมาแจกให้อีกรอบครับ ไม่งั้นคงไม่อิ่ม อิอิ
เมนูนี้ก็อร่อยครับ ไก่ชุปแป้งทอดผัดซอสเปรี้ยวหวาน
หลังจากนั้นต้องไปต่อเครื่องที่ ฮ่องกงครับ ถึงฮ่องกง 19.30 ดีเลย์ไปเยอะเลย มีเวลาแค่ 30นาที เครื่องจะออกตอน 20.00
แต่มีกราวน์ของคาร์เธย์มายืนรอรับ และพาเดิน ผ่านเครื่องสแกน ก่อนที่จะเดินไปยังเกทครับ ทันแบบเฉียดฉิวจริงๆ
ก่อนที่จะถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบ Road Trip ในอเมริกาอย่างสมบูรณ์ครับ
สรุปแล้ว ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอีกประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และหลากหลาย เหมาะกับทุกวัย
โดยเฉพาะความสวยงามของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ แปลกตากว่าที่อื่นๆ หวังว่าคงได้มีโอกาสกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งครับ
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามชมมาโดยตลอด
หวังว่ากระทู้นี้ คงมีประโยชน์สำหรับการเตรียมตัวไปเที่ยวอเมริกาบ้าง นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น