วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

U.S. West Coast Road Trip [DAY 7] " One Fine Day at Lake Tahoe "

สวัสดีครับอมยิ้ม17

หลังจากคราวก่อน ผมพาเที่ยวชมเมือง San Francisco มาสองวันเต็มๆแล้ว วันนี้เราจะออกเดินทางต่อไปยัง Lake Tahoe กับระยะทางประมาณ 190 ไมล์ ใช้เวลาเกือบๆ 4 ชั่วโมงครับ  ตอนแรกที่วางแผนนั้น กะว่าจะไม่ไป  Lake Tahoe เพราะคิดว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ คงมีแค่ทะเลสาปธรรมดาๆ  แต่มาคิดอีกที ไหนๆ ก็ผ่านมาแถวนี้แล้ว และพอมีเวลาอยู่บ้าง งั้นแวะดีกว่า จะได้ไม่ค้างคาใจ และเสียดายทีหลัง  เลยจัดการใส่ที่นี่ลงในแผนเที่ยวของเราด้วยครับ  ซึ่งก็ ไม่ทำให้ผิดหวัง กับทิวทัศน์ที่สวยงาม บรรยากาศอันเงียบสงบ  อากาศเย็นสบายมาก  เหมาะสำหรับมาปิคนิค หรือแวะค้างสักคืน รับรองว่าจะประทับใจจนถึงขั้นหลงรักที่นี่ทีเดียวครับ พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าโม้  งั้นไปชมกันเอาเองดีกว่าครับ


แผนการเดินทางในวันนี้



ออกเดินทางกันแต่เช้าเหมือนเคย (ไม่เคยได้ตื่นสายๆเลย55)  มุ่งหน้าสู่ Lake Tahoe บนเส้นทาง Highway 80

เส้นนี้ต้องข้ามสะพาน Carquinez Bridge ด้วยนะครับ เสียค่าผ่านทาง ด้วย คันละ $5 



พอเริ่มเข้าสู่ Sacramento ก็จะเปลี่ยนมาใช้เส้นทาง  Highway 50 ใช้เส้นทางนี้ไปจนถึง Lake Tahoe เลยครับ

พูดถึง Sacramento จะมีใครรู้บ้างว่านี่ คือเมืองหลวงของรัฐ California ครับ  หลายๆคนคงเข้าใจผิดคิดว่า Los Angeles เป็นเมืองหลวงใช่ไหมครับ อิอิ  


ช่วงก่อนถึง Lake Tahoe รถจะวิ่งผ่าน Eldorado National Forest ซึ่งเป็นป่าสนตลอดเส้นทาง



นานๆ จะเจอปั้มน้ำมัน  แวะพักเติมน้ำมันกันก่อนครับ เผื่อไว้เต็มถังก่อนดีกว่า  ราคาน้ำมันพอๆกับในเมือง ไม่แพงเว่อร์ เหมือนตอนอยู่บนเขาวันก่อนๆ โน้น

ใครต้องการทำธุระส่วนตัวก็จัดการกันที่นี่เลย  ซึ่งปั้มส่วนใหญ่จะมีห้องน้ำให้บริการ อยู่ในมินิมาร์ทครับ


ขับลัดเลาะไปตามแนวเขาเรื่อยๆครับ  สังเกตว่าบนยอดเขาก็ยังขาวโพลน มีหิมะเหลืออยู่เหมือนกัน  แต่ก็คงใกล้จะละลายแล้ว





มึไหล่ทางบนเขาสามารถแวะจอดชมวิวได้  เห็น Lake ไกลๆ นั่น แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว





ในที่สุดก็เข้าสู่ South Lake Tahoe บรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้นมาบ้าง ในตัวเมืองมีร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม เยอะเลยครับ แต่เรายังไม่แวะ ไว้ค่อยไปซื้อแถวๆที่พักดีกว่า



" Welcome to South Lake Tahoe " เริ่มเข้าสู่ Lake Tahoe กันอย่างเป็นทางการแล้วpompom

สำหรับ Lake Tahoe เป็นเลคขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในแนวเทือกเขา Sierra Nevada ครับ สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,897 เมตร มีขนาดใหญ่ กินพื้นที่ ถึง 2 รัฐด้วยกัน คือรัฐ

California และ รัฐ Nevada ครับ ถือว่าเป็น Alpine Lake (เลคที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงตั้งแต่ 5,000 ฟุตขึ้นไป)ที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาครับ

http://www.visitinglaketahoe.com/




เราขับตรงดิ่งไปยังเป้าหมายแรกที่ Tallac Historic Site เจอป้ายทางเข้าละ แต่หาที่จอดไม่มี แถมต้องเดินเท้าเข้าไปอีก  เลยเปลี่ยนใจ ไม่ไปละ 555

http://tahoeheritage.org/events-and-programs-2/tallac-historic-site/



ขับวนตามเข็มนาฬิกา รอบเลค ต่อไปเรื่อยๆ ครับ    ระหว่างทางเจอรถคันอื่นแวะจอดถ่ายรูป ก็จอดตาม เผื่อมีมุมสวยๆ อิอิ

วิวบริเวณนี้เป็นวิวมุมสูง เห็นโค้งหาดของเลคทาโฮทางตอนใต้อย่างชัดเจนครับ  อมยิ้ม36

จุดที่ถ่าย ไม่มีป้ายบอกนะครับ แต่มีที่ข้างทางเว้าเข้ามาพอจอดรถได้  อยู่บนถนนเส้นบน Emerald Bay Rd.บริเวณที่ขนานกับ Cascade Rd.ด้านล่าง





จากนั้นเราขับต่อไปอีกนิดไปยัง " Inspiration Vista Point " จุดนี้มีที่จอดรถไม่เยอะมากครับ แต่ตามไหล่ถนนก็พอจอดได้ เห็นคันอื่นก็จอดกัน




จุดนี้เราสามารถเห็นวิวของ Emerald Bay ได้ และสามารถมองเห็น Fannette Island ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ เพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ใน Emerald Bay ได้อีกด้วย


สำหรับ Emerald Bay เกิดจากการกัดเซาะจากธารน้ำแข็งนานนับพันปี แต่ที่ Fannette Island ยังคงอยู่ ไม่ถูกกัดเซาะ นื่องจากพื้นที่ตัวเกาะเป็นหินแกรนิตนั่นเองครับ

ปัจจุบัน Fannette Island เป็นเกาะที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Emerald Bay State Park ครับ  เดิมทีรู้จักกันในหลายๆชื่อ อาทิ Coquette, Fannette,

Baranoff, Dead Man's, Hermit's, และ Emerald Isle  บริเวณส่วนกลางของเกาะจะมีโครงหิน มียอดปลายแหลมคล้ายกับปราสาทขนาดเล็ก มีชื่อว่า Tea

House เดิมเจ้าของเคยใช้ เป็นที่นั่งจิบชา ต้อนรับแขก ปัจจุบันได้ถูกทำลาย เหลือเพียงแค่ซากหินเท่านั้น

http://www.parks.ca.gov/?page_id=1159





บริเวณปากอ่าว Emerald Bay ดูแทบไม่ออกเลยนะครับ ว่านี่คือ Lake  เหมือนมาเที่ยวทะเลมากกว่า




ออกจาก Inspiration Vista Point ขับต่อมาบริเวณตอนกลางของ   Emerald Bay  ครับ มุมนี้สวยมากก  อยากจะเก็บภาพตรงจุดนี้แต่ไม่สามารถหาที่จอดข้างทางได้เลย ครับ ได้แต่ยื่นกล้องออกไปถ่ายนอกรถ   จริงๆ ก็พอมีที่ว่างแต่แคบมาก และไม่แน่ใจว่าจะมีทางให้เดินหรือเปล่า เพราะเดินบนถนนคงอันตรายแน่ๆ




ผ่านไปอีกนิดเดียวก็จะถึง Eagle Falls Trail ซึ่งต้องจอดรถที่ด้านซ้ายมือครับ  ค่าจอด $5 แต่โชคไม่ดี ไม่มีที่จอดรถว่างเลย ถ้าใครจะมา ต้องมาถึงที่นี่ตั้งแต่เช้าๆนะครับ

สำหรับ Trail นี้ระยะทางไปกลับประมาณ 2 ไมล์ ครับ ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที ก็จะเห็นตัวน้ำตกชั้นล่าง

http://www.tahoesbest.com/eagle-falls-trail-lake-tahoe


ตรงต่อไปที่  " Vikingsholm " บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวฝั่งตรงกันข้ามกับ Inspiration Vista Point ครับ

จุดนี้เป็นลานหินกว้าง เป็นเนินเล็กน้อย สามารถเดินไปชมวิวของ Emerald Bay ได้สวยกว่าจุดแรก




จุดชมวิว Vikingsholm นี้ไม่ควรพลาดครับ มุมสวยๆเยอะเลย







และจากจุดนี้สามารถมองเห็นธารน้ำที่ไหลมาจาก Eagle Falls ก่อนที่จะไหลลงสู่ Lake Tahoe ด้วยครับ



ขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึง Mckinney Bay บริเวณนี้ก็มีท่าเรือส่วนตัวสวยๆ ด้วย  แหม่ น่าอิจฉาเจ้าของจริงๆ






ร้านค้าแถวๆ West Lake Blvd แถวนี้บรรยากาศเงียบเหงา ครับ


ท่าเรือนี้หรูเชียว สะดุดตาตรงลวดลายเหล็กดัดครับ  สวยมาก




ถัดมาอีกนิด มีที่จอด สามารถเดินมาลงชายหาดได้ครับ  ชายหาดที่นี่ไม่ใช่ทราย แต่เป็นก้อนหินครับ เดินอาจจะลำบากหน่อย แต่ก็แลกกับบรรยากาศดีดีแบบนี้ แถมยังมีโต๊ะปิคนิค นั่งกินข้าวได้สบายๆครับ




ขับมาเรื่อยๆ จนถึงทางตอนเหนือของเลค ที่ North Lake Blvd แถบนี้ก็จะร้านค้า ร้านขายอุปกรณ์และกิจกรรมทางน้ำ รวมถึงร้านอาหารต่างๆ



แถวนี้มีหมีด้วยเหรอเนี่ย




ขับเรื่อยมาจนเข้าสู่ " Crystal Bay " ซึ่งเราได้ข้ามรัฐมาที่  Nevada แล้วครับ เรียกว่าเส้นแบ่งรัฐระหว่าง California กับ Nevada อยู่ตรงนี้นี่เอง

และจาก Crystal Bay สามารถขับต่อไปยังเมือง Reno ซึ่งอยู่ทางตอนบนได้อีกด้วยครับ



พอผ่านหัวโค้ง Crystal Bay ลงมาทางใต้บน Tahoe Blvd จะเห็นมุมสวยๆ ของ Crystal Bay แบบนี้ครับ น้ำใสแจ๋ว สมชื่อเลยครับ






จากนั้นก็ขับมาเรื่อยๆ จนมาถึง  Memorial Point Scenic Overlook ครับ จุดนี้มีร้านค้าห้องน้ำด้วย แต่ช่วงที่ไป ปิดให้บริการครับ  วิวจุดนี้มีต้นไม้บัง มองไม่ค่อยเห็น



ขับต่อไปที่ Sand Harbor overlook จุดนี้ต้องเลี้ยวเข้าไปด้านในอีก และรู้สึกต้องเสียค่าผ่านทางด้วยครับ เลยวนรถกลับออกมา


แล้วเราก็คิดผิดครับ เพราะเวิ้งที่เห็นหลังจากขับออกมา นั่นคือ บริเวณ Sand Harbor มีหาดทรายกว้างพอสมควร และ สีของน้ำในทะเลสาปไล่สีกันสวยงามมาก



วิ่งผ่านอุโมงค์ใต้เขา หลังจากนี้ก็เริ่มเข้าเมืองกันอีกรอบ คราวนี้วิ่งตรงไปที่พักเลยครับ เริ่มหิวข้าวแล้ว



พอเห็น Harrah's บน Lincoln Highway แสดงว่าเรากำลังเข้าสู่ Stateline ระหว่างรัฐ California กับ Nevada แล้ว และในบริเวณนี้เองจะมีกิจกรรมในหน้าหนาว คือ เล่นสกีครับ โดยนั่งกระเช้า Gondola ขึ้นไปด้านบน ในละแวกนี้จึงมีร้านให้เช่าอุปกรณ์เกี่ยวกับการเล่นสกีต่างๆมากมาย





ก่อนเข้าที่พัก แวะซื้อของสดที่ Safeway กันก่อนครับ  ซุปเปอร์มาร์เก็ตแบรนด์นี้ส่วนใหญ่จะเจอตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วไปครับ


ได้ของสดพร้อมแล้ว จากนั้นก็เข้าที่พักกันเลยครับ  ที่ " Tahoe Lakeshore Lodge and Spa "พลุ

เหตุผลที่เลือกพักที่นี่ อย่างแรกคือ ติด Lake Tahoe ครับ มาทั้งทีเลยอยากได้บรรยากาศดี วิวสวยๆหน่อย อย่างที่สองคือ มีครัว สามารถทำอาหารได้ และสุดท้าย ราคาไม่แพงมากครับ เราขับเข้ามาจอดรถเพื่อเช็คอินกันก่อนที่ตึกนี้ซึ่งเป็นส่วนของ Hotel สำหรับในส่วนของคอนโดที่เราจองไว้ ต้องขับตรงไปอีกนิดครับ

http://tahoelakeshorelodge.com/




หน้าตาที่พักของเราในคืนนี้ ไม่เหมือนคอนโดเลย เหมือนบ้านพักมากกว่าครับ  หลังนึงมีทั้งหมด 4 ยูนิตครับ มีทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน



เมื่อเปิดเข้ามาก็ต้องร้อง ว้าววว !! สวยกว่าที่คิดไว้ครับ  การตกแต่งแต่ละยูนิตจะไม่เหมือนกัน แล้วแต่เจ้าของครับ (คือแต่ละห้องจะมีเจ้าของ และปล่อยให้เช่าครับ)

เข้ามาภายในห้อง ด้านซ้ายมือเป็นส่วนของครัว มีเตาไฟฟ้า เตาอบ ไมโครเวฟ  ตู้เย็น และอุปกรณ์ครัว ครบชุด ทั้ง หม้อ กะทะ จาน ชาม ช้อน ส้อม แก้วน้ำ




ถัดไปเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น  มีเตาผิงให้ด้วย ครับ









ด้านขวามือ ตรงข้ามกับห้องครัว จะเป็นห้องนอน และห้องน้ำ ตกแต่งเรียบๆ แต่สวยทีเดียวครับ






ขึ้นมาที่ชั้นบน ในส่วนห้องใต้หลังคากันต่อครับ มีเตียงนอน อยู่ด้านนอกห้อง นอนได้สบายๆ อีก 1 คน

ชอบจริงห้องใต้หลังคาเนี่ย




ที่ชั้นบนใต้หลังคา  ยังมีอีก 1 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำ  เหมือนชั้นล่าง ครับ แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำ









ลงมาสำรวจบริเวณริม เลคกันบ้างครับ ในโซนของคอนโดจะเรียงรายกันอยู่ตลอดแนว มีหลายหลังทีเดียวครับ  ถ้าได้พักด้านหน้าสุด คงจะดีมาก สามารถสัมผัสกับวิวได้เต็มๆตา แถมออกมาเดินเล่นริมหาดก็ใกล้นิดเดียว



มาถึงส่วนของโรงแรม  ซึ่งมี 3-4 ชั้น สามารถเดินออกมาริมหาดได้สบายๆ มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าด้วยนะครับ   ตอนแรกที่จองคิดว่าตึกนี้เป็นส่วนของคอนโดซะอีกครับ  สำหรับห้องพักในส่วน ของโรงแรม การตกแต่งเฟอร์นิเจอร์จะใช้ไม้ไผ่เป็นหลัก และไม่มีครัวสำหรับทำอาหาร



อากาศดี แต่ลมแรงมากครับ






กลับขึ้นห้อง รออาหารมื้อเย็นกันดีกว่าครับ   ที่บ้านกำลังลงมือทำอาหารกันยกใหญ่เลย มาเที่ยวต่างแดน แล้วได้กินอาหารถูกปาก มีความสุขจริงๆครับ



เมนูวันนี้ประกอบด้วย ผัดกะหล่ำดอก ไข่เจียว น้ำพริกหมู ตำแตง แกงจืดสาหร่าย  ขอบอกว่าอร่อยมากกกก








ทานมื้อเย็นเสร็จ ออกไปที่ระเบียง ไปดูแสงสุดท้ายของค่ำคืนนี้ โรแมนติคมากๆ





และนี่คือที่นอนของผมในคืนนี้  โซฟานั่นเองอิอิ





หลับสบายไปทั้งคืน ตื่นมาตอนเช้า รอพระอาทิตย์ขึ้น เปิดประตูไปที่ระเบียง โอ้วววว หนาวมากกกก ลองวัดดู อุณหภูมิ  -2 องศาครับ !!!!!!! แต่ก็ชอบนะ หนาวดี อิอิ


หลังจัดการมื้อเช้าเรียบร้อย ลงไปเดินเล่นที่หาดกันก่อนครับ ลมพัดปะทะใบหน้า ปั่กๆๆ หนาวมาก ยิ้มที ปากสั่นเลยครับ 555 แต่ภาพที่เห็นเบื้องหน้านี่สวยเหลือเกิน  แสงแรกของวันฉาบท้องฟ้าเป็นสี ชมพู  เทือกเขาที่เป็นฉากหลังก็ยังพอมีหิมะปกคลุมอยู่  สวยมากกครับ





ยังซึมซับบรรยากาศตอนเช้าไม่อิ่มเลย  ก็ต้องได้เวลาบ๊ายบาย Lake Tahoe แล้วครับ 



เห็นภาพนี้คงพอเดาออกนะครับ ว่ามันหนาวขนาดไหน  ครั้งหน้า จะพาไปเที่ยว  Yosemite National Park อย่าลืมตามชมนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น